DON'T MISS
บริษัทประกันปฏิเสธความรับผิดจนเป็นเหตุให้คดีขึ้นสู่การพิจารณาของศาล หากบริษัทประกันแพ้คดีจะต้องชำระค่าเสียหายหรือไม่
กฎหมายที่เกี่ยวข้อง
ประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์
มาตรา 869 อันคำว่า “วินาศภัย” ในหมวดนี้ ท่านหมายรวมเอาความเสียหายอย่างใด ๆ บรรดาซึ่งจะพึงประมาณเป็นเงินได้
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2821/2558
สัญญาประกันวินาศภัยเป็นสัญญาที่ผู้รับประกันภัยตกลงใช้ค่าสินไหมทดแทน หรือใช้เงินจำนวนหนึ่งให้ในกรณีวินาศภัยหากมีขึ้น หรือในเหตุอย่างอื่นในอนาคตดังที่ระบุในสัญญา และในการนี้บุคคลอีกคนหนึ่งตกลงจะส่งเงินซึ่งเรียกว่าเบี้ยประกันภัย ซึ่งตาม ป.พ.พ. มาตรา 869 ได้ให้คำนิยาม วินาศภัย ว่า ให้หมายความรวมเอาความเสียหายอย่างใดๆ บรรดาซึ่งจะพึงประมาณเป็นเงินได้ ดังนี้ การที่โจทก์ชำระเบี้ยประกันภัยให้แก่จำเลยตามสัญญา...
การคิดค่าขาดประโยชน์ เริ่มนับจากวันไหน
การคิดค่าขาดประโยชน์ เริ่มนับจากวันไหน
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2747/2540
โจทก์ฟ้องว่า โจทก์เป็นเจ้าของรถยนต์คันหมายเลขทะเบียนน-9090 เชียงราย จำเลยที่ 1 เป็นนิติบุคคลประเภทบริษัทจำกัดประกอบธุรกิจประกันวินาศภัย โจทก์เอาประกันภัยรถยนต์คันดังกล่าวไว้แก่จำเลยที่ 1 ในวงเงินประกัน 80,000 บาท ต่อมาในระหว่างอายุประกันภัยรถยนต์ของโจทก์ได้เกิดอุบัติเหตุชนกับรถยนต์คันหมายเลขทะเบียน น-6107 ชุมพร โดยไม่ใช่ความผิดของโจทก์ และเจ้าของรถยนต์คันหมายเลขทะเบียน น-6107 ชุมพร ได้ชำระเงิน50,000 บาท ให้จำเลยที่ 1...
Food
สัญญากู้เงินไม่ได้กำหนดเวลาชำระต้นเงินคืนไว้ หากผู้กู้ถึงแก่ความตาย ผู้ให้กู้จะต้องฟ้องทายาทของผู้กู้ให้ชำระหนี้เงินกู้ ภายในกำหนดอายุความกี่ปี
สัญญากู้เงินไม่ได้กำหนดเวลาชำระต้นเงินคืนไว้ หากผู้กู้ถึงแก่ความตาย ผู้ให้กู้จะต้องฟ้องทายาทของผู้กู้ให้ชำระหนี้เงินกู้ ภายในกำหนดอายุความกี่ปี
มีคำพิพากษาวินิจฉัยไว้ดังนี้
คำพิพากษาฎีกาที่ 8811/2556
สัญญากู้เงินระหว่างโจทก์กับ ส. ไม่ได้กำหนดเวลาชำระต้นเงินคืนไว้ โจทก์ย่อมเรียกให้จำเลยชำระหนี้ได้โดยพลันตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์มาตรา 203 วรรคหนึ่ง และถือเป็นเวลาที่ผู้ให้กู้อาจบังคับสิทธิเรียกร้องได้ อายุความจริงเริ่มนับแต่วันถัดจากวันทำสัญญากู้เงิน
เมื่อ ส. ถึงแก่ความตายก่อนที่โจทก์ทวงถาม ก็ไม่อาจใช้อายุความทั่วไปเพราะสิทธิเรียกร้องอันมีต่อ เจ้ามรดกซึ่งยังไม่ถึงกำหนดเวลาบังคับ
เมื่อเจ้ามรดกถึงแก่ความตายก่อนถึงกำหนดนั้น เจ้าหนี้ก็ต้องฟ้องคดีเพื่อบังคับตามสิทธิ์เรียกร้องนั้นภายใน 1 ปีนับแต่ได้รู้ถึงความตายของเจ้ามรดก
เมื่อ ส. ถึงแก่ความตายวันที่ 1 ธันวาคม 2548 ...
LATEST ARTICLES
กรมธรรม์ประกันเจตนาให้ผู้รับผลประโยชน์ โดยไม่แบ่งทายาทโดยธรรมสามารถทำได้หรือไม่
กรมธรรม์ประกันเจตนาให้ผู้รับผลประโยชน์ โดยไม่แบ่งทายาทโดยธรรมสามารถทำได้หรือไม่
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 892/2565
โจทก์ทั้งสองฟ้องขอให้บังคับจำเลยทั้งสองร่วมกันชำระเงิน 10,850,770 บาท พร้อมดอกเบี้ยอัตราร้อยละ 7.5 ต่อปีของต้นเงิน 10,000,000 บาท นับถัดจากวันฟ้องเป็นต้นไปจนกว่าจะชำระเสร็จแก่โจทก์ทั้งสอง
จำเลยที่ 1 ให้การขอให้ยกฟ้อง
ระหว่างพิจารณาของศาลชั้นต้น นาง ก. ในฐานะส่วนตัวและในฐานะผู้จัดการมรดกของนาย ส. ยื่นคำร้องสอดขอเข้าเป็นคู่ความตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 57 (1) ขอให้บังคับจำเลยทั้งสองร่วมกันชำระเงิน 10,850,770 บาท...
ผู้มีสิทธิได้รับค่าขาดไร้อุปการะ ศาลฎีกาวางหลักไว้อย่างไร
ผู้มีสิทธิได้รับค่าขาดไร้อุปการะ ศาลฎีกาวางหลักไว้อย่างไร
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 4780/2558
โจทก์ฟ้องและแก้ไขคำฟ้องขอให้บังคับจำเลยทั้งสามร่วมกันใช้ค่าเสียหายจำนวน 2,000,000 บาท พร้อมดอกเบี้ยอัตราร้อยละ 15 ต่อปี นับแต่วันฟ้องจนกว่าจะชำระเสร็จแก่โจทก์ทั้งสอง
จำเลยทั้งสามให้การขอให้ยกฟ้อง
ศาลชั้นต้นพิพากษายกฟ้อง ค่าฤชาธรรมเนียมให้เป็นพับ
โจทก์ทั้งสองอุทธรณ์
ศาลอุทธรณ์พิพากษากลับ ให้จำเลยที่ 1 และที่ 2 ร่วมกันชำระเงินจำนวน 224,416.01 บาท พร้อมดอกเบี้ยอัตราร้อยละ 7.5 ต่อปี นับแต่วันฟ้อง (ฟ้องวันที่ 11...
ค่ารักษาพยาบาลเบื้องต้น ถือเป็นค่าสินไหมทดแทนหรือไม่
ค่ารักษาพยาบาลเบื้องต้น ถือเป็นค่าสินไหมทดแทนหรือไม่
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 10260/2558
โจทก์ฟ้องและแก้ไขคำฟ้องโดยได้รับอนุญาตให้ยกเว้นค่าธรรมเนียมศาลเฉพาะค่าขึ้นศาลกึ่งหนึ่ง ขอให้บังคับจำเลยทั้งสี่ร่วมกันชำระค่าเสียหาย รวมเป็นเงินต้นและดอกเบี้ยถึงวันฟ้อง 1,074,794.52 บาทพร้อมดอกเบี้ยอัตราร้อยละ 7.5 ต่อปี ของเงินต้น 1,000,000 บาท นับถัดจากวันฟ้องจนกว่าจำเลยทั้งสี่จะชำระเสร็จแก่โจทก์
จำเลยทั้งสี่ให้การทำนองเดียวกันขอให้ยกฟ้อง
ศาลชั้นต้นพิพากษาให้จำเลยที่ 1 ถึงที่ 3 ร่วมกันชำระเงิน 200,000 บาท จำเลยที่ 4 ชำระเงิน 174,000 บาท...
ค่าเสียหายเบื้องต้นในความรับผิดตามพรบ. ศาลฎีกาวางหลักไว้อย่างไร
ค่าเสียหายเบื้องต้นในความรับผิดตามพรบ. ศาลฎีกาวางหลักไว้อย่างไร
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2765/2565
โจทก์ฟ้องขอให้บังคับจำเลยชำระเงิน 265,000 บาท พร้อมดอกเบี้ยอัตราร้อยละ 7.5 ต่อปี นับแต่วันฟ้องเป็นต้นไปจนกว่าจะชำระเสร็จแก่โจทก์
จำเลยให้การขอให้ยกฟ้อง
ศาลชั้นต้นพิพากษายกฟ้อง ค่าฤชาธรรมเนียมให้เป็นพับ
โจทก์อุทธรณ์
ศาลอุทธรณ์ภาค 5 แผนกคดีผู้บริโภค พิพากษายืน ค่าฤชาธรรมเนียมชั้นอุทธรณ์ให้เป็นพับ
โจทก์ฎีกา โดยศาลฎีกาแผนกคดีผู้บริโภคอนุญาตให้ฎีกา
ศาลฎีกาแผนกคดีผู้บริโภควินิจฉัยว่า ข้อเท็จจริงเบื้องต้นรับฟังได้ว่า โจทก์เป็นสามีชอบด้วยกฎหมายของนางทิพวรรณ จำเลยเป็นนิติบุคคลประเภทบริษัทจำกัด จัดตั้งตามพระราชบัญญัติคุ้มครองผู้ประสบภัยจากรถ พ.ศ. 2535 มีวัตถุประสงค์ประกอบธุรกิจประกันวินาศภัยเฉพาะการประกันภัยรถตามพระราชบัญญัติคุ้มครองผู้ประสบภัยจากรถ พ.ศ. 2535...
เงินช่วยค่าปลงศพที่ช่วยเหลือ สามารถนำมาหักออกจากค่าเสียหายได้หรือไม่
เงินช่วยค่าปลงศพที่ช่วยเหลือ สามารถนำมาหักออกจากค่าเสียหายได้หรือไม่
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1146/2558
โจทก์ทั้งสองฟ้องและแก้ไขคำฟ้องขอให้บังคับจำเลยทั้งสามร่วมกันชำระเงิน 1,773,750 บาท พร้อมดอกเบี้ยอัตราร้อยละ 7.5 ต่อปี ของต้นเงิน 1,650,000 บาท นับถัดจากวันฟ้องเป็นต้นไปจนกว่าจะชำระเสร็จแก่โจทก์ที่ 1 ให้จำเลยทั้งสามร่วมกันชำระเงิน 287,008 บาท พร้อมดอกเบี้ยอัตราร้อยละ 7.5 ต่อปี ของต้นเงิน 266,985 บาท นับถัดจากวันฟ้องเป็นต้นไปจนกว่าจะชำระเสร็จแก่โจทก์ที่ 2
ศาลชั้นต้นมีคำสั่งไม่รับฟ้องจำเลยที่...
การกำหนดจำนวนค่าสินไหมทดแทน ศาลดูจากฐานะและการศึกษาของผู้ตายได้หรือไม่
การกำหนดจำนวนค่าสินไหมทดแทน ศาลดูจากฐานะและการศึกษาของผู้ตายได้หรือไม่
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 5628/2560
โจทก์ฟ้องขอให้บังคับจำเลยทั้งเก้าร่วมกันใช้ค่าเสียหายแก่โจทก์ทั้งสองเป็นเงิน 1,300,000 บาท พร้อมดอกเบี้ยอัตราร้อยละ 7.5 ต่อปี ของต้นเงินดังกล่าวนับแต่วันที่ 17 มีนาคม 2556 เป็นต้นไปจนกว่าจะชำระเสร็จ
จำเลยที่ 1 ที่ 3 และที่ 5 ขาดนัดยื่นคำให้การและไม่มาศาลในวันนัดสืบพยาน
จำเลยที่ 2 ที่ 4 ที่ 6...
ค่าปลงศพและค่าใช้จ่ายอื่นๆ ศาลมีดุลพินิจในการพิจารณาได้ตามสมควรหรือไม่
ค่าปลงศพและค่าใช้จ่ายอื่นๆ ศาลมีดุลพินิจในการพิจารณาได้ตามสมควรหรือไม่
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 871/2565
โจทก์ฟ้องและแก้ไขคำฟ้องขอให้บังคับจำเลยทั้งสองร่วมกันชำระเงิน 1,500,000 บาท พร้อมดอกเบี้ยอัตราร้อยละ 7.5 ต่อปี ของต้นเงินดังกล่าวนับแต่วันทำละเมิดจนกว่าจะชำระเสร็จแก่โจทก์
จำเลยทั้งสองให้การขอให้ยกฟ้อง
ศาลชั้นต้นพิพากษาให้จำเลยทั้งสองร่วมกันชำระเงิน 402,795.40 บาท พร้อมดอกเบี้ยอัตราร้อยละ 7.5 ต่อปี ของต้นเงินดังกล่าว นับแต่วันที่ 27 พฤศจิกายน 2560 เป็นต้นไปจนกว่าจะชำระเสร็จแก่โจทก์ ให้จำเลยทั้งสองร่วมกันใช้ค่าฤชาธรรมเนียมแทนโจทก์ โดยกำหนดค่าทนายความ 3,000 บาท
โจทก์อุทธรณ์
ศาลอุทธรณ์ภาค...
ประมาทไม่หยิ่งหย่อนกว่ากัน ศาลฎีกาวางหลักไว้อย่างไร
ประมาทไม่หยิ่งหย่อนกว่ากัน ศาลฎีกาวางหลักไว้อย่างไร
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 920/2566
แม้จำเลยที่ 2 ผู้รับประกันภัยค้ำจุนขาดนัดยื่นคำให้การ โจทก์ต้องนำสืบให้ได้ความตามคำฟ้องตาม ป.วิ.พ. มาตรา 198 ทวิ ทั้งจำเลยที่ 1 ให้การต่อสู้คดีว่า ผู้ตายมีส่วนประมาทมากกว่าหรือไม่ยิ่งหย่อนไปกว่าจำเลยที่ 1 จึงเป็นกรณีที่ต้องฟังพยานหลักฐานทั้งสองฝ่ายในประเด็นพิพาทว่าจำเลยที่ 1 ประมาทแต่เพียงฝ่ายเดียวตามที่โจทก์กล่าวอ้างมาในฟ้องหรือไม่ ดังนี้ เมื่อศาลชั้นต้นพิพากษาว่า จำเลยที่ 1 ประมาทฝ่ายเดียว และให้จำเลยที่...
ตั้งใจปกปิดโรค มีผลทำให้สัญญาประกันชีวิตเป็นโมฆะได้หรือไม่
ตั้งใจปกปิดโรค มีผลทำให้สัญญาประกันชีวิตเป็นโมฆะได้หรือไม่
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 922/2566
การที่ ย. รู้ถึงข้อเท็จจริงที่ตนเคยได้รับการตรวจสุขภาพ และแพทย์ให้ข้อสังเกตว่าตนเป็นโรคความดันโลหิตสูงมาก่อนแล้ว แต่ไม่เปิดเผยข้อความจริงนั้น ซึ่งหาก ย. เปิดเผยย่อมจูงใจให้จำเลยเรียกเบี้ยประกันภัยสูงขึ้นหรือบอกปัดไม่ยอมทำสัญญาไม่ว่า ย. จะได้รับการรักษาต่อไปตามคำแนะนำของแพทย์หรือไม่ จะเข้าพบแพทย์ด้วยสิทธิประโยชน์ทางใด หรือจะได้รับการจ่ายยาเพื่อรักษาโรคหรือไม่ รวมทั้งแท้จริงแล้ว ย. จะป่วยเป็นโรคความดันโลหิตสูงหรือไม่ เพราะเป็นเรื่องข้อมูลที่จำเลยได้รับขณะทำสัญญาประกันภัยไม่ถูกต้องและเป็นข้อสำคัญที่จำเลยจะปฏิเสธไม่รับประกันภัย หรือหากจะรับประกันภัยก็ต้องสืบสวนหาข้อเท็จจริงต่อไปว่าควรเสี่ยงรับประกัน ย. หรือไม่ ทั้งข้อวินิจฉัยของแพทย์ก็เป็นการตั้งข้อสังเกตโดยแพทย์แล้วว่าเป็นโรคความดันโลหิตสูงแล้ว ไม่ว่า ย. จะถึงแก่ความตายด้วยสาเหตุใด...
ค่าสินไหมทดแทนสำหรับค่าขาดไร้อุปการะมีได้หรือไม่
ค่าสินไหมทดแทนสำหรับค่าขาดไร้อุปการะมีได้หรือไม่
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 4478/2565
โจทก์ฟ้องและแก้ไขคำฟ้องขอให้บังคับจำเลยทั้งสามร่วมกันชำระเงิน 3,000,000 บาท พร้อมดอกเบี้ยอัตราร้อยละ 7.5 ต่อปี นับแต่วันฟ้องเป็นต้นไปจนกว่าจะชำระเสร็จแก่โจทก์
จำเลยทั้งสามให้การและแก้ไขคำให้การขอให้ยกฟ้อง
ระหว่างพิจารณาของศาลชั้นต้น จำเลยทั้งสามขอให้เรียกบริษัท ท. และบริษัท ส. เข้ามาเป็นจำเลยร่วม ศาลชั้นต้นอนุญาต โดยให้เรียกว่าจำเลยร่วมที่ 1 และที่ 2 ตามลำดับ ต่อมาโจทก์ขอถอนฟ้องจำเลยร่วมทั้งสองอ้างว่า จำเลยร่วมทั้งสองได้ชดใช้ค่าสินไหมทดแทนแก่โจทก์ครบจำนวนตามกรมธรรม์ประกันภัยทั้งสามฉบับแล้ว ศาลชั้นต้นมีคำสั่งอนุญาต จำหน่ายคดีเฉพาะจำเลยร่วมทั้งสองออกจากสารบบความ
ศาลชั้นต้นพิพากษาให้จำเลยที่ 1...